2009年3月20日 星期五

เพื่อนแท้ 真正的朋友(上)--by ไมตรี ลิมปิชาติ

本文選自泰國知名幽默散文作家
ไมตรี ลิมปิชาติ (Maitri Limpichad)
2551 年所出版的散文集
書名:“มีหมาเป็นเพื่อนดีกว่ามีเพื่อนเป็นหมา”
中譯: "有狗為友勝過有友是狗"
作者為一愛狗人士, 本書彙集其所寫關於狗的所有文章,
文章很有泰式愛狗觀點, 語句幽默又風趣
書名:“มีหมาเป็นเพื่อนดีกว่ามีเพื่อนเป็นหมา”
中譯: "有狗為友勝過有友是狗"
出版: สำนักพิมพ์ สุวีริยาสาส์น
發行: จัดจำหน่าย: ชมรมเด็ก
www.chomromdek.com
尊重智慧財產, 引用或轉貼,
請務必註明作者及出版社

====================================
“มีหมาเป็นเพื่อนดีกว่ามีเพื่อนเป็นหมา”
"有狗為友勝過有友是狗"


ประโยคที่ว่านี้ผมไม่ได้คิดขึ้นเอง
แต่จำมาจากข้อความหลังรถบรรทุกคันหนึ่ง



ตั้งแต่เกิดมา ผมเคยเลี้ยงหมามาแล้วหลายตัว หมาไม่เคยขาดไปจากบ้าน หมายถึง พอตัวหนึ่งตายจากไป ก็จะหามาเลี้ยงใหม่ ตอนอยู่บ้านกันหลายๆ คนพร้อมลูกพร้อมเมียแม่ยาย บางครั้งผมก็ลืมว่ามีหมาอยู่ที่บ้านตัวหนึ่งด้วย
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมต้องเฝ้าบ้านคนเดียว ผมถูกทิ้งให้เป็นคนโดดเดี่ยวผู้น่ารักอยู่หลายวัน หันไปทางไหนไม่พบหน้าคน พบแต่หน้าหมา ยอมรับครับว่าเวลาที่ว่านี้ หมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม
ถ้าผมนั่งอยู่ในบ้าน หมาจะคอยเห่าบอก หากมีคนมา



ผมไม่ชอบนั่งกินข้าวคนเดียวเพราะมันเหงาอย่างบอกไม่ถูก ผมจะใช้วิธีออกจากตัวบ้านไปที่โต๊ะสนามใต้ต้นมะม่วงเพื่อกินข้าวกับหมา อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมกินข้าวร่วมโต๊ะกับหมา เพียงแต่ใช้วิธีเอาอาหารหมาใส่จานของมันให้มันยืนกินอยู่ใกล้ๆ



พอกินอาหารเสร็จแล้ว หมามันคงรู้ว่าผมต้องการมันเป็นเพื่อน มันจะไม่ยอมไปไหนเลย จะนั่งเฝ้าผมอยู่ใกล้ๆ เวลาผมเอามือตบหัวหมาเบาๆ หมารู้ว่าผมต้องการเล่นกับมัน มันก็เล่นด้วย โดยกระดิกหางแล้วยกตีนข้างหนึ่งส่งให้ผม เหมือนด้วยการขอจับมือกับผม



ปกติเวลามีคนอยู่บ้านผมจะพูดกับคนแต่พอต้องอยู่คนเดียวผมรู้สึกเหงาปากมากที่ไม่ได้พูดกับใคร ผมจึงแก้อาการเหงาปากด้วยการชวนหมาคุย ผมอยากพูดอะไรก็พูด มันจะฟังเฉยๆ หมาเป็นนักฟังที่ดีเสมอ


บางครั้งผมจะพูดต่อว่ามันอย่างไรมันก็ไม่โกรธและไม่โต้ตอบ อย่างดีก็แค่ทำหูผึ่งเท่านั้น สายตาของมันบอกให้รู้ว่า รู้เรื่องที่ผมพูด แต่จะรู้เรื่องจริงหรือเปล่าพิสูจน์ยาก


มีข้อน่าสังเกตอยู่อีกอย่างหนึ่งคือ หมาเป็นสัตว์ที่ไม่โกรธคนที่ให้ข้าวมันกิน จะตีจะเตะมันบ้างมันก็เฉยๆถึงแม้ใครจะดุด่ามันแรงๆ


เท่าที่ผมสังเกต หมาก็พอใจที่ผมอยู่บ้านเป็นเพื่อนกับมัน เพราะต่างคนต่างต้องการเพื่อน ว่างั้นเถอะ
เมื่อมีความต้องการตรงกันก็ทำให้อยู่กันได้ทั้งวัน ระหว่างผมกับหมาโดยไม่มีการขัดแย้งในเรื่องใดๆ



พอถึงเวลากลางคืน ที่จริงผมอยากชวนหมาให้เข้ามาอยู่ในตัวบ้านเพื่อนั่งดูทีวีกับผม แต่ไม่อาจจะทำได้เพราะผมเลี้ยงหมาไว้ก็จริง แต่ให้มันอยู่บริเวณนอกตัวบ้าน


ถึงอย่างไรก็ยังรู้สึกอุ่นใจเมื่อรู้ว่า ผมไม่ได้อยู่บ้านคนเดียวยังมีหมาเป็นเพื่อน
แม้ตอนเข้านอน ผมก็สบายใจได้ถ้ารู้ว่ามีหมา เพราะถ้าเกิดมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบริเวณบ้านยามวิกาล หมาก็ต้องเห่า อย่าว่าแต่คนแปลกหน้าเลย แม้มีผีเข้าบ้าน หมาก็สามารถบอกผมได้ โดยเปลี่ยนจากเสียงเก่าเป็นเสียงหอนแทน



นอนกลางคืนคนเดียวผมชอบเสียงหมาเห่ามากกว่าหมาหอน ทั้งนี้ก็เพราะผมเป็นคนกลัวผีนั่นเอง
โชคดีครับ เวลาผ่านไป ๓ คืนที่ผมต้องอยู่บ้านคนเดียวนั้นไม่ได้ยินเสียงหมาหอน แสดงว่าหมาคงจะรู้ว่าผมกลัวผี จึงเกรงใจไม่กล้าหอนก็ได้ ทั้ง ๆ ที่เห็นผี แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขโมยไม่ได้เข้าบ้าน ของก็ไม่หาย หมาก็ยังอยู่ แล้วผมก็ไม่โดนผีหลอกด้วย



หมาเป็นเพื่อนที่ดีของคนได้จริงๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่คนเดียวตลอดชีวิต ขนาดผมอยู่คนเดียวแค่ไม่กี่วันก็ยังนึกถึงบุญคุณหมา ที่หมาได้กรุณาช่วยอยู่เป็นเพื่อน

======================================
本文選自泰國知名幽默散文作家
ไมตรี ลิมปิชาติ (Maitri Limpichad)
2551 年所出版的散文集
書名:“มีหมาเป็นเพื่อนดีกว่ามีเพื่อนเป็นหมา”
中譯: "有狗為友勝過有友是狗"
作者為一愛狗人士,
本書彙集其所寫關於狗的所有文章
很有泰式愛狗觀點, 幽默又風趣
書名:“มีหมาเป็นเพื่อนดีกว่ามีเพื่อนเป็นหมา”
中譯: "有狗為友勝過有友是狗"
出版: สำนักพิมพ์ สุวีริยาสาส์น
發行: จัดจำหน่าย: ชมรมเด็ก
www.chomromdek.com
尊重智慧財產, 引用或轉貼,
請務必註明作者及出版社



說明及中譯部分: by Helen 鄭

沒有留言:

張貼留言